แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ของ เนมาญา วีดิช

ฤดูกาล 2005-2006

หลังจากเล่นในลีกรัสเซียกับสปาร์ตัคมอสโกได้เพียงแค่ 2 ปี ในวันที่ 25 ธันวาคม 2005 วีดิชได้เซ็นสัญญากับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวประมาณ 7 ล้านปอนด์ แต่กว่าจะได้เดินทางเข้าสู่สโมสร ก็ล่วงเวลาไปกว่าครึ่งปีเนื่องจากติดใบอนุญาตทำงานโดยวันที่ 5 มกราคม ปี 2006 วีดิชจึงได้ย้ายเข้าร่วมสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างสมบูรณ์ หากจะรวมระยะเวลาทั้งหมดซึ่งที่ทางสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้ให้ความสนใจในตัวเขาตั้งแต่การให้แมวมองออกไปดูฟอร์มนักเตะจนถึงได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมนั้น กินเวลากว่า 2 ปีครึ่ง

การการซื้อขายนั้นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดปาดหน้าฟีโอเรนตีนาเพื่อซิววีดิชมายืนแผงหลัง ทั้ง ๆ ที่ สโมสรต้นสังกัดขณะนั้นกับฟิออเรนตินาได้ตกลงค่าตัวกันเรียบร้อยแล้ว ว่ากันว่าที่ฟีโอเรนตีนาต้องพลาดการเซ็นต์สัญญาครั้งนี้เพราะว่าโควต้านักเตะนอกสหภาพยุโรปเต็มพอดียูไนเต็ดจึงปาดหน้าคว้าตัวกองหลังคนเหล็กมาได้สำเร็จ

วีดิชได้เสื้อหมายเลข 15 และได้ลงเล่นนักแรกกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2006 ในฐานะตัวสำรอง โดยถูกเปลี่ยนตัวลงไปแทนรืด ฟัน นิสเติลโรย ช่วงใกล้หมดเวลาในเกมที่เอาชนะแบล็คเบิร์น โรเวอร์สไปได้ 2-1 ใน League Cup รอบ semi-final นัดที่สอง แชมป์รายการแรกของวีดิชคือ League Cup ที่ต้นสังกัดเอาชนะ Wigan Athletic ไปได้อย่างท่วมท้น 4-0 ในปี 2006 โดยได้ลงเล่นในนาทีที่ 83

ฤดูกาล 2006–07

ระหว่างฤดูกาล 2006-07 วีดิชได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอโดยครึ่งฤดูกาลแรกได้ลงเล่นถึง 25 เกม โดยจับคู่เล่นกับริโอ เฟอร์ดินานด์ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค และได้กลายเป็นคู่เซ็นเตอร์แบ็คที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดในยุโรปในขณะนั้น ฤดูกาลนั้นจบลงด้วยการที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก

วีดิชยิงประตูแรกในวันที่ 14 ตุลาคม 2006 นัดที่พบกับวีกันแอทเลติกในนัดที่เอาชนะไปได้ 1–3 ขณะที่ประตูต่อมาเขายิงได้ในนัดที่พบกับพอร์ตสมัทโดยยิงประตูขึ้นนำ 3–0 ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2006 และถือเป็นประตูแรกที่ยิงได้ใน United's Old Trafford วีดิชยิงประตูแรกในรายการถ้วยยุโรป (EUFA Champions League) ในนัดที่ชนะไบฟีกา 3-1 วันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2006 ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม โดยโหม่งประตูสุดสวยตีเสมอให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดต้องชนะเท่านั้นจึงจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีม) หลังจากโดนนำไปก่อน ทำให้ต้นสังกัดเดินหน้าบุกและยิงได้อีก 2 ประตู กรุยทางเข้าสู่รอบต่อไปได้ หลังจากเกมนั้น ผู้จัดการทีมไบฟีกาได้ออกมายกย่องประตูนั้นว่า เป็นประตูที่สุดสวยและทำให้ทีมของเขาต้องผิดหวังกับผลการแข่งขัน

ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007 วีดิชจรดปากกาต่อสัญญากับต้นสังกัดไปอีก 5 ปี ทำให้เขามีพันธะผูกพันกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปจนถึงปี ค.ศ. 2012 สิ้นฤดูกาล เขาก็ได้พาต้นสังกัดคว้าดับเบิลแชมป์ คือแชมป์ลีกเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน และแชมป์ยุโรป ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกในชีวิตของเขา (เอาชนะเชลซีในการดวลจุดโทษ) นอกจากนี้วีดิชยังติดทีมยอดเยี่ยมยุโรปในปีนั้นอีกด้วย ปีนั้นจึงถือเป็นปีทองของเนมาญา วีดิช อย่างแท้จริง

ประกาศแขวนสตั้ด

หลังปราการหลังชาวเซอร์เบียได้รับอาการบาดเจ็บรบกวน และได้ยกเลิกสัญญากับ อินเตอร์มิลาน เจ้าตัวจึงตัดสินใจแขวนสตั้ดด้วยวัย 34 ปี

แหล่งที่มา

WikiPedia: เนมาญา วีดิช http://www.manutd.com/en/Players-And-Staff/First-T... http://www.nemanjavidic.com http://www.premierleague.com/content/dam/premierle... http://www.soccerbase.com/players_details.sd?playe... http://www.uefa.com/competitions/UCL/Players/Playe... http://www.inter.it/en/squadra/G0941 http://www.sd-crvenazvezda.net/news/uploads/downlo... http://www.reprezentacija.rs/index.php?option=com_... http://www.stretfordend.co.uk/playermenu/vidic.htm... https://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Nemanj...